โปรดอย่าสับสนกับคำศัพท์ที่ใช้ – บุหรี่ไฟฟ้า (vapes), บุหรี่ไฟฟ้าปรับแต่ง (mods), บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ (e-cigs) และบุหรี่ไฟฟ้าปากกา (vape pens)
ล้วนเป็นรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสิ้น
กลุ่มประชากรอายุ 14 ถึง 24 ปีในปัจจุบัน เป็นคนรุ่นแรกที่รับสารนิโคตินจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหลักแทนการสูบบุหรี่มวน
เด็กวัยรุ่น 1 ใน 3 รายเคยลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า
และเด็กวัยรุ่นราว 1 ใน 5 รายสูบบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันนี้
คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเปิดประเด็นพูดคุยเรื่องการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
กับบุตรหลานหรือเด็กวัยรุ่นที่คุณห่วงใย
การเริ่มต้นพูดคุยเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก
แต่เป็นเรื่องสำคัญ
เตรียมพร้อมที่จะรับฟังและพูดคุยโดยไม่ลงความเห็นตัดสิน
สนใจและอยากรู้ความรู้สึกนึกคิดของเด็ก
และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยที่จะพูดคุยและรับฟังซึ่งกันและกัน
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อน
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าคือ การใช้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์หรือ ‘เวป’
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ที่อาจมีลักษณะคล้ายกับบุหรี่มวน
ซิการ์ไปป์ ปากกาไฮไลต์ หรือยูเอสบี
ละอองลอย (ควันหรือไอระเหย)
จากบุหรี่ไฟฟ้าเกิดจากการให้ความร้อนแก่น้ำยาเคมี
ที่ผู้สูบจะสูบเข้าไป
บุหรี่ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมายนั้นมักมีการแต่งกลิ่นรสในน้ำยาซึ่งทำให้บุหรี่ไฟฟ้ามีกลิ่นและรสหวาน
รสหวานนี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดเด็กวัยรุ่น
พบสารเคมีปรุงแต่งกว่า 200 ชนิดในบุหรี่ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมาย
เช่นฟอร์มาลดีไฮด์ นิโคติน และโลหะหนัก
บุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในออสเตรเลียมีนิโคตินถึงแม้บรรจุภัณฑ์จะระบุว่าไม่มีก็ตามและนิโคตินเป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด
สำหรับเด็กวัยรุ่นนั้นนิโคตินเป็นอันตรายต่อพัฒนาการทางสมองอีกทั้งยังส่งผลต่อสมาธิการเรียนรู้ ความจำ และอารมณ์
เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นพูดคุยเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
เลือกเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมโดยเลือกเวลาพูดคุยเมื่อคุณและบุตรหลานไม่มีอะไรต้องเร่งรีบและหาสถานที่ที่ทั้งคุณและเด็กรู้สึกผ่อนคลาย
อย่าสันนิษฐานไปเองหากคุณคิดว่า บุตรหลานอาจเคยลองบุหรี่ไฟฟ้าโปรดอย่ากล่าวโทษเด็กแต่ให้เน้นข้อเท็จจริงเป็นหลัก
หลีกเลี่ยงตัดสินหรือสั่งสอนเตรียมพร้อมรับฟังมุมมองของเด็กและพูดคุยโดยรับฟังซึ่งกันและกัน
ถามคำถามปลายเปิดที่ส่งเสริมให้เกิดการพูดคุย
แทนที่จะพยายามพูดสิ่งที่ควรจะพูดทั้งหมดในตอนแรก
ให้คิดเสียว่าการพูดคุยเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องพยายามทำไปอย่างต่อเนื่อง
เหมือนการพยายามเลิกบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจต้องพยายามสองถึงสามครั้งกว่าจะสำเร็จ
แต่เมื่อคุณกับบุตรหลานเริ่มพูดคุยกันเรื่องนี้แล้วก็จะง่ายขึ้นที่จะพูดคุยกันอย่างเปิดใจต่อไป
ในระหว่างการพูดคุยพึงตั้งใจฟัง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และอย่ากล่าวเกินจริง
พูดเรื่องแรงกดดันจากเพื่อนสุขภาพ และค่อย ๆ อธิบายสิ่งที่คุณกังวล
เมื่อเด็กตัดสินใจว่าจะเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าการช่วยเด็กค้นหาบริการช่วยเหลือ
เช่นแอป My QuitBuddy ก็จะช่วยให้เด็กเลิกได้สำเร็จ
นอกจากนี้เด็กยังสามารถปรึกษาผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพของสายช่วยเหลือ Quitline เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าและวิธีเลิกได้
คุณก็สามารถขอคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะทำได้ในฐานะพ่อแม่หรือผู้ดูแลเช่นกัน
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือความช่วยเหลือในการเลิกโปรดไปที่ health.gov.au/vaping/translated
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือความช่วยเหลือในการเลิกโปรดไปที่ health.gov.au/vaping/translated